“จะยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบไปเตรียมน้ำให้ข้าอาบ เตรียมให้คนจัดสำรับมื้อเย็นสิ! มารดาเจ้าไม่สอนรึว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไร?”
ถ้อยคำหยาบคายที่ลากเอา “มารดา” ของนางมาเกี่ยว ทำเอาหลิงเซียวชาวาบตั้งแต่สันหลังถึงปลายเล็บมือ นางกำมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด สาวใช้ทั้งสามหน้าซีดเป็นไก่ต้ม แต่เฟิ่งเยี่ยนกลับเฉยเมยดั่งไม่คิดว่าตนผิดอะไรแม้แต่น้อย
แววตายิ่งเย็นชาเมื่อเขาเอ่ยซ้ำราวตั้งใจจะบดขยี้หัวใจนางให้แหลกละเอียดเพราะรู้ทั้งรู้ว่ามารดาของกู้หลิงเซียวจากไปนานแล้ว
“อ้อ ข้าลืมไป…มารดาของเจ้าตายนานแล้วนี่ ถึงไม่มีใครสั่งสอนว่าหน้าที่ของ ‘ฮูหยิน’ ต้องทำตัวอย่างไร”
หลิงเซียวเหมือนถูกฟาดด้วยแส้กลางแสกหน้า แต่ความเจ็บนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธที่พุ่งทะลุขีดจำกัด นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น สายตาสงบ เสียงเรียบ แต่คมกริบเหมือนคมมีดสั้น
“มารดาของข้าตายนานแล้ว…เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ แต่บิดาของท่านแม่ทัพก็มิใช่ตายเช่นกันหรอกหรือ เช่นนั้นพวกเราช่างเหมาะสมกันยิ่ง คนหนึ่งท่านแม่ตาย!…อีกคนท่านพ่อตาย!“
บ่าวไพร่ทั้งศาลาชะงักมือ ราวกับลมหยุดพัดไปชั่วครู่ เฟิ่งเยี่ยนถลึงตามองนางราวกับจะฉีกเนื้อ ริมฝีปากกระตุกเพราะไม่คาดว่าสตรีที่เขาหมายจะกดให้หมอบอยู่ใต้ฝ่าเท้า กลับกล้ามีถ้อยคำย้อนคืนเขารุนแรงราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่กลางตลาด
เลือดขึ้นหน้าแม่ทัพสวีอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมสว่างโรจน์ด้วยโทสะ เขาไม่เอ่ยคำใดต่อ เพียงสะบัดหน้าแล้วเดินกระแทกเท้าเข้าเรือนอย่างรวดเร็วเพราะหากอยู่ต่อได้บีบคอนางตายแน่ ทิ้งไว้แต่แรงกดดันอึมครึมทั่วศาลา
บานประตูไม้สักถูกเปิดแรงจนเสียงดังสะท้อน ความเงียบปกคลุมอีกครั้ง
หลิงเซียวปล่อยลมหายใจช้า ๆ นางยังยืนตัวแข็ง ความโกรธและความเจ็บปวดปนกันยุ่งเหยิง แต่ไม่อาจแสดงออกเหมือนสตรีที่อ่อนแอให้เขาย่ำยีได้อีก
นางหันไปเรียกสาวใช้ เสียงนิ่งแต่มั่นคง
“กุ้ยหนิง กุ้ยชิง ไปที่ครัวใหญ่ บอกให้เตรียมสำรับมื้อเย็นและนำมาที่เรือนนี้ให้เรียบร้อย”
“เจ้าค่ะ ฮูหยิน!”
เมื่อทั้งสองรีบออกไป กุ้ยอิงยังยืนหน้าซีดอยู่ข้างศาลา หลิงเซียวสูดลมหายใจแล้วพูดต่อเบาแต่หนักแน่น
“กุ้ยอิง มากับข้า…ไปเตรียมน้ำอาบให้ท่านแม่ทัพ”
น้ำเสียงเรียบไม่สะทกสะท้าน แต่ความจริงแล้วหัวใจนางเต้นแรงไม่เป็นส่ำ เพราะรู้ดีว่าความสงบสิบเจ็ดวันนั้น…คงถึงกาลอวสานแล้วจริงๆ
นางเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำท้ายเรือนอย่างสง่างาม ทุกก้าวเหมือนเดินเข้าเขาวงกตไฟของโชคชะตาจะลุกไหม้หรือเพียงควันจาง ยังไม่อาจรู้ แต่ตั้งแต่วินาทีที่สวีเฟิ่งเยี่ยนกลับมา…
ความวุ่นวายคงเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
